วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

จิปาถะ13

.................................................................................................................................................................
***********
"ช่วงแห่งความมืดมิด"

คนดี
มองสิที่ฟ้าไกลเห็นไหมนั่น
ดวงดาวทั้งใหญ่น้อยนับร้อยพัน
ต่างประชันขันแข่งแสงแวววาว

เหมือนดังจะประกาศอำนาจใหญ่
ว่าดวงใจแสงเด่นเป็นจอมหาว
และมองสิช่องว่างระหว่างดาว        
ม่านมืดยาวพาดฟ้ายามราตรี

อาณาเขตห้วงหาวแม้ดาวผอง
กระพริบส่องแสงสว่างอย่างเต็มที่
แต่ความมืดรายล้อมดาวย่อมมี
รัศมีส่งไปไม่ถึงกัน

ดาวก็เหมือนกับกมลคนทั้งหลาย
มีแต่หมายแก่งแย่งและแข่งขัน
คนอื่นอยู่อย่างไรไม่สำคัญ
ตนเท่านั้นแหละที่ดีกว่าใคร

คุณธรรมสิ้นผู้ยอมรู้จัก
ขับความรักกระเจิงเหลิงความใคร่
ช่วงต่อของช่องว่างระหว่างใจ
ยิ่งมืดไปกว่าฟ้ายามราตรี

ความมืดระหว่างดาวต่อดาวนั้น
เมื่อถูกแรงแสงตะวันมันก็หนี
แต่ความมืดระหว่างใจนั้นไม่มี
หนทางที่ขับไล่มันได้เลย


********************************************


ที่มา  :  klonthaiclub.com
........................................................................................................................................................................................................

********************************
บทกวีชิ้นนี้เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ลองอ่านดู
                ตลิ่งของสองข้างทางน้ำของ                                               แม้ยืนมองดูยังคอตั้งบ่า
                เขาหาบน้ำตามขั้นบันไดมา                                  แต่ตีนท่าลื่นลู่ดังถูเทียน
                เหงื่อที่กายไหลโทรมลงโลมร่าง                         แต่ละย่างตีนยันสั่นถึงเศียร
                อันความทุกข์มากมายหลายเล่มเกวียน                ก็วนเวียนอยู่กับของสองฝั่งเอย”..
*************************************************************************************
..
ดอกรักบานในหัวใจใครทั้งโลก
แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน "..........
..............................................



๏ จริงหรือนี่ที่ว่ารักเราจักร้าว
นึกแล้วหนาวเหน็บนักแก้วรักเอ๋ย
รสสัมผัสอ่อนละมุนที่คุ้นเคย
ไยจึงเผยรสร้างจืดจางกัน

เราเคยร่วมใจฝันว่าวันหนึ่ง
เราจะถึงวันที่งามเหมือนความฝัน
ฟ้าสีทอง ดอกไม้บาน ธารพระจันทร์
และรักอันคงค่าสถาพร

ฉันเฝ้ารอคอยวันที่ฝันไว้
รอด้วยรักด้วยใจไม่ถ่ายถอน
แต่นี่สร้อยสายสวาทมาขาดตอน
เธอกล้ารอนลงด้วยมือเธอหรือไร

เมื่อเธอสิ้นเสน่หามาสนอง
รักที่ปองมอดหมดความสดใส
แผลรักร้ายบ่อนทั่วเนื้อหัวใจ
จะต้องปวดร้าวไปถึงไหนกัน

ดอกรักบานในหัวใจใครทั้งโลก
แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน
และอาจเป็นเช่นนี้ชั่วชีวัน
เมื่อรักอันแจ่มกระจ่างกลับร้างไกล

นิยายรักยืดยาวของเรานั้น
คงไร้วันสดชื่นขึ้นบทใหม่
หมดความหมายที่จะรอกันต่อไป
เพราะเปลวไฟรักดับลงกับตา ๚...
.........................................................จิปาถะ............
พิมท์ไม่เก่งๆไม่งั้นจะระบายความอัดอั้นๆได้มากกว่าๆระบายหรือถ่ายเทออกมาเป็นตัวอักษร.........ไม่ได้พลาดพิงใครคงไร้คนเค้ามั่นไส้......!!!!!!!!!!!^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^_^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น